จากกรณีมีผู้ซื้อรถมือสอง จากเต็นท์รถยนต์แห่งหนึ่งในซอยลาซาล แขวงบางนา เขตบางนา หลังจากออกรถมาได้เพียง 11 วัน ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์มายึดรถคันดังกล่าวและรถคันดังกล่าวมีการติดตั้งเครื่องติดตามรถ GPS พร้อมไมค์โครโฟนอยู่ที่บริเวณหลังพวงมาลัยนั้น โดยเจ้าของเต็นท์รถได้ยอมรับว่าติดตั้ง GPS ไว้ที่รถจริง และติดในรถทุกคันของเต็นท์ เนื่องจากเป็นการผ่อนโดยตรงกับเต็นท์ ต้องติดไว้เพื่อป้องกันลูกค้าหนีเพื่อปกป้องทรัพย์สินของทางเต็นท์ เห็นว่า การติดตั้งเครื่องติดตามรถ GPS พร้อมไมค์โครโฟน ไม่อาจทำได้ ซึ่งจะเป็นความผิดตามกฎหมาย ดังนี้
ความผิดทางละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421 การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้น ถือเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ,มาตรา 422 ถ้าความเสียหายเกิดจากการฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใด อันมีที่ความประสงค์เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่นๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นผู้ผิด
ความผิดทางอาญา เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการคมนาคม มาตรา 74 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อดักรับไว้ ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยข้อความข่าวสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่มีการสื่อสารทางโทรคมนาคม โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดตามพ.ร.บ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มาตรา 19 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหรือในขณะนั้น เว้นแต่บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้กระทำได้ และมาตรา 24 ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ดังนั้น การที่เต็นท์รถติด GPS พร้อมไมค์โครโฟนในรถที่ได้ขายไปให้ลูกค้าแล้วตามไปยึดรถคืนนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎหมายที่กล่าวมาข้างต้น
Comments