top of page

เข้าใจพื้นฐานของตำแหน่ง DPO (Data Protection Officer) หรือ ผู้คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลก่อน

รูปภาพนักเขียน: Epsilon Legal AdminEpsilon Legal Admin

บทบาทของ DPO (ผู้คุ้มครองข้อมูล) ในกฎหมาย PDPA หรือ GDPR DPO (ผู้คุ้มครองข้อมูล) เป็นบทบาทที่สำคัญในกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และ ประกาศทั่วไปคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) ทั้งสองกฎหมายมีหน้าที่สำคัญในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ข้อมูลเกี่ยวข้องกับพวกเขา ต่อไปนี้คือบทบาทหลักของ DPO ในรูปแบบของกฎหมาย PDPA และกฎหมาย GDPR โดยหลัก ๆ หน้าที่ตามกฎหมาย PDPA (Thailand) นั้นจะมีหน้าที่ดำเนินการที่น้อยกว่า หลักการใช้ GDPR ซึ่งหน้าที่หลักของ DPO แท้จริงนั้นเป็นงานที่จุกจิกพอสมควร และมีรายละเอียดยิบย่อยจำนวนมาก ซึ่งในวันนี้เราจะทำการสรุปให้ง่ายและแบ่งให้ดูตามตารางข้างล่างโดยเปรียบเทียบระหว่าง PDPA (Thailand) และ GDPR นะครับ


หน้าที่ของ
DPO Duty

DPO PDPA (Thailand)

DPO GDPR

คำปรึกษาและแนะนำ DPO มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำผู้ควบคุมข้อมูลและพนักงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA (Thailand)

คำปรึกษาและแนะนำ DPO มีหน้าที่ให้คำปรึกษาและแนะนำให้กับผู้ควบคุมข้อมูลและผู้ประมวลผล รวมไปถึงเจ้าของข้อมูลอีกด้วย

การติดต่อกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ DPO ต้องเป็นตัวแทนที่ติดต่อกับกรมคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และพยายามรับฟังข้อร้องเรียนหรือคำขอจากเจ้าของข้อมูล มีทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร โดยภายนอกองค์กร หลัก ๆ จะหมายถึงภาครัฐ และผู้ประมวลที่เกิดความเสี่ยงสูงต่อองค์กร

การติดต่อกับผู้ควบคุมข้อมูล DPO ต้องเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผู้ควบคุมข้อมูล โดยแบ่งออกเป็นภายในองค์กร และภายนอกองค์กร โดยการติดต่อดังกล่าว เพื่อขอตรวจสอบ ไกล่เกลี่ย หรือ เพื่อลดความเสี่ยงของการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งผู้ควบคุมข้อมูลหลัก และรอง


การติดต่อหน่วยงานคุ้มครองข้อมูล DPO ต้องเป็นตัวแทนที่ติดต่อกับหน่วยงานคุ้มครองข้อมูลและเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับผู้ควบคุมข้อมูล หรือแจ้งการละเมิดข้อมูลต่อหน่วยงานภาครัฐ

การสอบสวนและรายงานการละเมิด DPO ต้องสอบสวนการใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือการละเมิดกฎหมาย PDPA และรายงานให้กับคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนการทำรายงานการตรวจสอบข้อมูลเพื่อป้องกันการละเมิดตามกฎหมาย

การสอบสวนและรายงานการละเมิด DPO ต้องสอบสวนและรายงานการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีความเสี่ยงสูงและรายงานให้กับกรมคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนการทำรายงานการตรวจสอบข้อมูลเพื่อป้องกันการละเมิดตามกฎหมาย และเมื่อเกิดการละเมิดต้องแจ้งต่อหน่วยงานภาครัฐ


การสอบสวนการร้องเรียน DPO ต้องจัดการการร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจากในหรือนอกองค์กรต้องทำการสืบสวนทุกกรณี

การพัฒนานโยบายความเป็นส่วนตัว DPO ต้องเข้าร่วมในการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวขององค์กร พร้อมเก็บข้อมูลบันทึกต่าง ๆ เพื่อใช้ในงานปรับปรุงด้าน Compliance ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำ DPIA เมื่อมีการวางระบบใหม่ ๆ

การพัฒนานโยบายความเป็นส่วนตัว DPO ต้องร่วมงานกับผู้ควบคุมข้อมูลในการพัฒนานโยบายความเป็นส่วนตัวและคู่มือที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บข้อมูลบันทึกต่าง ๆ เพื่อใช้ในงานปรับปรุงด้าน Compliance ของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การทำ DPIA เมื่อมีการวางระบบใหม่ ๆ

การฝึกอบรม DPO ต้องพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมเพื่อให้บุคลากรเข้าใจและปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัว

การฝึกอบรมและการควบคุมคุณสมบัติ DPO ต้องให้คำแนะนำและฝึกอบรมเพื่อให้บุคลากรทั้งหน่วยงานเข้าใจและปฏิบัติตาม GDPR


นอกจากนี้ยังมีมาตรฐาน PIPL ที่มีรูปแบบการจัดการด้าน DPO ที่แตกต่างกันออกไป การควบคุมคุณสมบัติของ DPO เป็นส่วนสำคัญในทั้ง PDPA และ GDPR เพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลและหน่วยงานในภาครัฐมั่นใจว่ามีผู้ที่มีความรู้และทักษะที่เพียงพอที่จะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ DPO ยังเป็นตัวแทนสำคัญที่ช่วยสร้างความไว้วางใจในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทหรือองค์กรในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีค่ามากมายและได้รับการคุ้มครองอย่างเคร่งครัด

ดู 47 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page